สวัสดีครับ/ค่ะ ยินดีต้อนรับสู่การเจาะลึกภาษาจีนผ่านบทสนทนาภาษาไทย วันนี้เราจะมาลองแกะรอยบทสนทนาภาษาจีนง่ายๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างนักเรียนไทย เมย์ และ อาจารย์หวัง ที่คุยกันเรื่องแผนในวันนั้น การเรียนรู้จากบทสนทนาจริงเช่นนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะช่วยให้เราเห็นภาพการนำคำศัพท์และโครงสร้างประโยคไปใช้ในบริบทจริง ไม่ใช่แค่การท่องจำศัพท์ ทำให้จดจำง่ายขึ้นและภาษาดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
เริ่มต้นวันใหม่และวางแผน
บทสนทนาเริ่มต้นด้วยการทักทายยามเช้า
- อาจารย์หวังถามเมย์ว่า "早上好,美。今天你有课吗?" (Zhǎoshàng hǎo, Měi. Jīntiān nǐ yǒu kè ma?) หรือ "สวัสดีตอนเช้าเมย์ วันนี้เธอมีเรียนไหม?"
- เมย์ตอบกลับว่า "早上好,老师。我今天没有课。" (Zhǎoshàng hǎo, lǎoshī. Wǒ jīntiān méiyǒu kè.) "สวัสดีตอนเช้าค่ะอาจารย์ วันนี้หนูไม่มีเรียนค่ะ"
- คำว่า "没有" (méiyǒu) ใช้ในการปฏิเสธว่า "ไม่มี"
เมื่อทราบว่าเมย์ไม่มีเรียน
- อาจารย์หวังจึงถามถึงแผนการว่า "那你打算做什么?" (Nà nǐ dǎsuàn zuò shénme?) "งั้นเธอวางแผนจะทำอะไรล่ะ?" โดยมีคำว่า "打算" (dǎsuàn) ที่แปลว่า "วางแผน"
- เมย์ตอบว่า "我想去图书馆看书。" (Wǒ xiǎng qù túshūguǎn kànshū.) "หนูอยากไปห้องสมุดอ่านหนังสือค่ะ" ซึ่งคำว่า "图书馆" (túshūguǎn) คือห้องสมุด และ "看书" (kànshū) คืออ่านหนังสือ โครงสร้างประโยคคล้ายภาษาไทยคือ ประธาน + กิริยา + กรรม
รายละเอียดแผนและการยืนยัน
- อาจารย์หวังถามเวลาที่จะไปว่า "你几点去?" (Nǐ jǐ diǎn qù?) "เธอจะไปกี่โมง?"
- เมย์ตอบว่า "我十点去,现在我在吃早饭。" (Wǒ shí diǎn qù, xiànzài wǒ zài chī zǎofàn.) "ฉันจะไป 10 โมง ตอนนี้กำลังกินข้าวเช้าอยู่" โดย "现在" (xiànzài) แปลว่าตอนนี้ และ "吃早饭" (chī zǎofàn) คือกินข้าวเช้า
เมื่อสนทนาต่อเนื่อง
- อาจารย์หวังถามว่าเมย์ไปคนเดียวหรือไม่: "你一个人去吗?" (Nǐ yīgè rén qù ma?) "เธอไปคนเดียวเหรอ?"
- เมย์ตอบปฏิเสธว่า "不是,李老师也去,我们一起看书。" (Bú shì, Lǐ lǎoshī yě qù, wǒmen yīqǐ kànshū.) "ไม่ใช่ค่ะ อาจารย์หลี่ก็ไปด้วย พวกเราอ่านหนังสือด้วยกัน" คำว่า "一起" (yīqǐ) ที่แปลว่า "ด้วยกัน" ถูกใช้บ่อยมาก
จากนั้น
- อาจารย์หวังถามเพื่อยืนยันสถานที่: "图书馆在学校前面,对吗?" (Túshūguǎn zài xuéxiào qiánmiàn, duì ma?) "ห้องสมุดอยู่หน้ามหาวิทยาลัยใช่ไหม?" โดย "学校" (xuéxiào) แปลว่ามหาวิทยาลัยหรือโรงเรียน และ "前面" (qiánmiàn) แปลว่าข้างหน้า ส่วน "对吗?" (duì ma?) ใช้ถามยืนยันว่า "ใช่ไหม?"
- เมย์ตอบว่า "对,走路五分钟就到了。" (Duì, zǒulù wǔ fēnzhōng jiù dào le.) "ใช่ค่ะ เดินแค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว" คำว่า "走路" (zǒulù) คือเดินเท้า และ "就到了" (jiù dào le) ให้ความรู้สึกว่า "แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว"
กิจวัตรประจำวัน
บทสนทนาขยับไปที่แผนหลังอ่านหนังสือ
- อาจารย์หวังถามว่า "看书以后,你们要去吃饭吗?" (Kànshū yǐhòu, nǐmen yào qù chīfàn ma?) "หลังจากอ่านหนังสือแล้ว พวกเธอจะไปกินข้าวไหม?" คำว่า "以后" (yǐhòu) แปลว่าหลังจาก
- เมย์ยืนยันแผนว่า "要去,我们中午去学校旁边的饭馆吃饭。" (Yào qù, wǒmen zhōngwǔ qù xuéxiào pángbiān de fànguǎn chīfàn.) "จะไปค่ะ พวกเราจะไปกินข้าวที่ร้านข้างมหาวิทยาลัยตอนเที่ยง" โดย "中午" (zhōngwǔ) คือตอนเที่ยง และ "饭馆" (fànguǎn) คือร้านอาหาร
สุดท้าย อาจารย์หวังถามถึงกิจวัตรประจำวัน
- เมย์ตอบเวลาตื่นนอนปกติคือ "我一般七点起床,有时候六点半。" (Wǒ yìbān qī diǎn qǐchuáng, yǒushíhou liù diǎn bàn.) "หนูตื่น 7 โมงค่ะ บางทีก็ตื่น 6 โมงครึ่งค่ะ" คำว่า "一般" (yìbān) แปลว่าปกติ และ "有时候" (yǒushíhou) คือบางครั้ง
- ส่วนเวลาเข้านอนคือ "十点半睡觉不太晚。" (Shí diǎn bàn shuìjiào bú tài wǎn.) "4 ทุ่มครึ่งเข้านอน ไม่ดึกมาก" โดย "睡觉" (shuìjiào) แปลว่านอนหลับ และ "不太晚" (bú tài wǎn) คือไม่ค่อยดึก
การฝึกฟังและพูดตามบทสนทนาเหล่านี้ช่วยให้เราคุ้นชินกับโครงสร้างประโยคและคำศัพท์ที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ลองนำคำศัพท์และประโยคเหล่านี้ไปสร้างบทสนทนาของตัวเองดูนะครับ/คะ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ภาษา!
0 ความคิดเห็น